การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการไทย-ลาว ครั้งที่ ๒
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๔๐๒/ว.๖๕๐๗ ลง ๑๐ พ.ค. ๕๖ เรื่อง การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการไทย-ลาว ครั้งที่ ๒ ในวันอาทิตย์ ที่ ๑๙ พ.ค. ๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน จว.เชียงใหม่ และมีมติเมื่อ ๒ ก.ค. ๕๖ มอบหมายหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามผลการประชุมฯ
เพื่อติดตามผลการประชุมฯ ดังกล่าว (เอกสาร ๔) ตามตารางติดตามผลการหารือฯ และมอบหมายหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ภ.๓ ดังนี้ (เอกสาร ๕)
การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
- ร่วมกับลาวกระชับความร่วมมือในการแก้ปัญหายาเสพติด แลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิดและทันเหตุการณ์ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา สกัดกั้นยาเสพติด โดยเฉพาะตามสะพานมิตรภาพต่างๆ และพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสม
- เร่งรัดให้ฝ่ายลาวเข้มงวดในการตรวจตรายาเสพติดบริเวณบ่อนการพนันคิงส์โรมัน
- ขยายการติดต่อประสานงานของสำนักงานประสานงานชายแดน (Border Liaison Office-BLO) ระหว่างแขวงของลาวและจังหวัดของไทย และจับคู่จังหวัดเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด เช่น แขวงเวียงจันทน์ - จว.เลย , แขวงสาละวัน - จว.อุบลราชธานี
สามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบได้ที่นี่ค่ะ
วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ผลการประชุมระหว่างไทย - กัมพูชา
ผลการประชุมระหว่างไทย - กัมพูชา เรื่องการลาดตระเวนร่วมเพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้บริเวณแนวชายแดน
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการประชุมเตรียมการกับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีฝ่ายไทยในการประชุมระหว่างไทย – กัมพูชา เมื่อ ๑ พ.ค. ๕๖ ณ ห้องประชุม ๓ กต. โดยที่ประชุมเห็นพ้องแนวทางและรูปแบบการลาดตระเวนร่วม สรุปได้ดังนี้
๑. ให้มีการประสานงานการลาดตระเวนร่วม (Coordinated Patrol) โดยการลาดตระเวนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศ
๒. ให้ปรับใช้แนวปฏิบัติมาตรฐาน (SOP) ในการลาดตระเวนด้านชายแดนไทย – มาเลเซีย
๓. ส่งเสริมโครงการพัฒนาชุมชนและการพัฒนาอาชีพให้แก่ประชาชนชาวกัมพูชา
----------------------------------------------------------------------------
การประชุมระหว่างไทย – กัมพูชา เรื่องการลาดตระเวนร่วมฯ เมื่อ ๘ พ.ค. ๕๖ ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต จว.บันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา สรุปได้ ดังนี้
๑. การตั้งคณะกรรมการ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้จัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อดูแลการดำเนินการ เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้พะยูงใน ๒ ระดับ ดังนี้
๑.๑ คณะกรรมการระดับประเทศ ให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายไทย และนายแอม ซามาน รมช.มท. กัมพูชา เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายกัมพูชา โดยคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายจะจัดการประชุม ปีละ ๑ – ๒ ครั้ง หรือตามความจำเป็น และมีหน้าที่กำหนดกรอบในการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันการลักลอบ ตัดไม้พะยูงบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
๑.๒ คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด บริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นประธานอนุกรรมการฝ่ายไทย ทำหน้าที่นำกรอบการปฏิบัติงาน ของคณะกรรมการระดับประเทศ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่รับผิดชอบ รวมทั้งเป็นช่องทางติดต่อประสานงานในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัน
๒. การลาดตระเวนโดยมีการประสานงาน (Coordinated Patrol) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักของการลาดตระเวน ต้องไม่มีนัยเกี่ยวกับเขตแดนระหว่างสองประเทศ โดยต้องมีการประสานงานกันและห่างจากเขตแดนในระยะที่เหมาะสม ภายในเขตอธิปไตยของแต่ละประเทศ
ทั้งนี้ เอกสารผลการประชุม สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ค่ะ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการประชุมเตรียมการกับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีฝ่ายไทยในการประชุมระหว่างไทย – กัมพูชา เมื่อ ๑ พ.ค. ๕๖ ณ ห้องประชุม ๓ กต. โดยที่ประชุมเห็นพ้องแนวทางและรูปแบบการลาดตระเวนร่วม สรุปได้ดังนี้
๑. ให้มีการประสานงานการลาดตระเวนร่วม (Coordinated Patrol) โดยการลาดตระเวนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศ
๒. ให้ปรับใช้แนวปฏิบัติมาตรฐาน (SOP) ในการลาดตระเวนด้านชายแดนไทย – มาเลเซีย
๓. ส่งเสริมโครงการพัฒนาชุมชนและการพัฒนาอาชีพให้แก่ประชาชนชาวกัมพูชา
----------------------------------------------------------------------------
การประชุมระหว่างไทย – กัมพูชา เรื่องการลาดตระเวนร่วมฯ เมื่อ ๘ พ.ค. ๕๖ ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต จว.บันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา สรุปได้ ดังนี้
๑. การตั้งคณะกรรมการ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้จัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อดูแลการดำเนินการ เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้พะยูงใน ๒ ระดับ ดังนี้
๑.๑ คณะกรรมการระดับประเทศ ให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายไทย และนายแอม ซามาน รมช.มท. กัมพูชา เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายกัมพูชา โดยคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายจะจัดการประชุม ปีละ ๑ – ๒ ครั้ง หรือตามความจำเป็น และมีหน้าที่กำหนดกรอบในการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันการลักลอบ ตัดไม้พะยูงบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
๑.๒ คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด บริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นประธานอนุกรรมการฝ่ายไทย ทำหน้าที่นำกรอบการปฏิบัติงาน ของคณะกรรมการระดับประเทศ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่รับผิดชอบ รวมทั้งเป็นช่องทางติดต่อประสานงานในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัน
๒. การลาดตระเวนโดยมีการประสานงาน (Coordinated Patrol) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักของการลาดตระเวน ต้องไม่มีนัยเกี่ยวกับเขตแดนระหว่างสองประเทศ โดยต้องมีการประสานงานกันและห่างจากเขตแดนในระยะที่เหมาะสม ภายในเขตอธิปไตยของแต่ละประเทศ
ทั้งนี้ เอกสารผลการประชุม สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)